การแสดงสีหน้าท่าทาง
1. การแสดงสีหน้าท่าทางส่วนสำคัญที่สุดของการแสดงสีหน้า ได้แก่ ดวงตา ดวงตาเป็นประตู่ของหัวใจที่จะติดต่อกับคนฟังโดยตรง เราชอบคนพูดที่พูดกับเราโดยไม่หลบตา ไม่ว่าในการพูดคุยธรรมดาหรือบนเวที หากคนที่พูดกับเราคอยหลบตา หรือไม่กล้าสบตา เราจะมีความไว้วางใจน้อยลง การพูดต่อชุมนุม ถ้าผู้พูดที่คอยก้มหน้าดูพื้น ก้มอ่านที่จดไว้ แหนงมองเพดาน มองออกไปทางหน้าต่างหรือที่อื่น ไม่มองไปยังผู้ฟัง ย่อมพาให้ผู้ฟังขาดความสนใจในตัวผู้พูด
ข้อบกพร่องในการแสดงสีหน้าที่มักพบเห็นกันอยู่เสมอ
1. หน้าลักไก่
2. หน้าเก๊ก
3. หน้าหลุกหลิก
2. การวางท่า ไม่มีแบบของการยืน หรือนั่งไว้แน่นอนแต่มีข้อพึงระวังอยู่ว่าอย่ายืนหรือนั่งตัวตรง แข็งทื่อแบบทหารเฝ้ายาม หรืออกแอ่น พุงแอ่น ให้ยืนนั่งตามสบาย แต่ก็อย่าให้ถึงขนาดตัวห่อหรือทำท่าจะล้มพับลง ให้เท้าห่างจากกันประมาณ 6-12 นิ้ว และวางน้ำหนักไว้ตรงอุ้งเท้าจะเป็นท่าที่ยืนที่สบาย
ข้อบกพร่องในการวางท่าที่มักพบเห็นกันอยู่เสมอ
1. ท่าคนขี้ยา
2. ท่าชิงหาหลัก
3. ท่าไม้ปักรั้ว
3. การเคลื่อนไหว หมายถึง การเดินไปเดินมาบนเวที การเคลื่อนไหวนี้มีความสำคัญในการสร้างความสนใจมากอยู่มาก การเคลื่อนไหวไปมาเป็นการเปลี่ยนความจำเจ การดินไปทางซ้ายบ้าง ขวาบ้าง หน้าบ้าง หลังบ้าง แต่พอสมควรช่วยคนฟังหายง่วงนอนได้
ข้อบกพร่องในการเคลื่อนไหวที่มักพบเห็นกันอยู่เสมอ
1. ชะมดติดจั่น ก้าวเดินไปจนพล่าน
2. ปั้นตรึงตรา มีลักษณะตรึงแน่นอยู่กับที่
3. ถลาร่อนลม โครงตัวกะเท่เร่ไปในทิศทางต่าง ๆ
4. การแสดงท่าทาง เป็นการเน้นหรือช่วยเพิ่มความกระจ่าง โดยเฉพาะในระยะทาง ขนาดรูปร่าง และทิศทาง ส่วนมากเป็นการใช้มือและแขน โดยปกติจะยกแสดงในระดับอกหรือสูงกว่านั้นไม่ควรแสดงโดยใช้มือต่ำกว่าสะดือจะทำให้ผู้ฟังมองไม่เห็น เพื่อเน้นให้คนฟังประทับใจและจำได้
ข้อบกพร่องในการแสดงท่าทางที่มักพบเห็นกันอยู่เสมอ
1. การชี้นิ้ว
2. การทุบโต๊ะ
3. การปฏิเสธ หรือไม่รับรู้
4. การอ้อนวอน
แหล่งอ้างอิง